Run Git hooks ในหลาย ๆ project ด้วย pre-commit
โดยปกตินักพัฒนาจะทำการติดตั้ง script เพื่อที่จะ run ให้เราตรวจพบความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้รวดเร็วที่สุด หนึ่งในท่าที่ใช้กันคือ Git hooks ยกตัวอย่างเช่นในแง่ของ security หนึ่งในเครื่องมือป้องกันไม่ให้เกิดช่องโหว่ที่ระบบปัจจุบันของเราใช้อยู่คือ secret scanning tool เพื่อตรวจสอบว่า code มันมี credentials เช่น API key, password, connection string, private encryption key หลุดออกไปหรือเปล่า ถ้ามีก็จะขึ้นเตือนมาก่อนที่ code จะถูก push ขึ้นไปบน remote repository ซึ่งจะง่ายกว่าการที่มันหลุดออกไปแล้วมาแก้ทีหลัง (เราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้วใน สรุปแนวทางการลบ credentials ออกจาก Git (อย่างถาวร) จาก GitGuardian) สำหรับบทความนี้ก็จะแนะนำ pre-commit ก็มาดูกันว่ามันดีกว่าเครื่องมือตัวอื่น ๆ อย่างไร
ปัญหาของ Git hooks คือการ share script เดียวกันกับหลาย ๆ project แบบเรียบง่ายก็ copy-paste เอาทีละ project แต่ถ้าต้อง update script ทีนึงก็ต้องเข้าไปทีละ project เช่นเดียวกัน pre-commit คือ framework ที่ใช้สร้างและจัดการ script ที่จะ run ก่อน commit ด้วย Git (ต่อไปนี้จะเรียกว่า Git hooks) ให้สามารถ share กันหลาย ๆ project โดยรูปแบบการทำงานของ pre-commit
จะเป็นดังนี้
ขั้นตอนการใช้งานแบบพื้นฐาน
- เริ่มจากติดตั้ง
pre-commit
command line ก่อนผ่านpip
,homebrew
หรือconda
-
เราสามารถเลือกที่จะใช้ hooks ที่มีอยู่แล้ว หรือจะลงมือสร้างเองก็ได้ ถ้าสร้างเองเราจะต้องสร้าง repository สำหรับเก็บ hook script ไว้โดยมี structure ประมาณนี้
├── .pre-commit-hooks.yaml ├── hook_1 │ ├── Dockerfile │ ├── some-hook-script.sh └── hook_2 ├── run.py ├── pyproject.toml
-
.pre-commit-hooks.yaml
สำหรับกำหนดรูปแบบของ hooks เช่น id, name, executable file path (entrypoint), จะ run ตอนไหน,จะ run เป็น single หรือ parallel process เป็นต้น ดูเพิ่มเติมได้ใน supported languages เช่น- id: hook_2 name: Hook number 2 description: Some description... entry: hook_2 language: python types: [text]
-
Hook script ต่าง ๆ ที่เก็บไว้แล้วแต่สะดวก ส่วนตัวแนะนำให้แยก directory ตาม hook ไปเลย
-
-
ก่อนที่เราจะนำ hooks ไปใช้เราสามารถทดสอบ hook ด้วยการใช้คำสั่ง
try-repo
ได้โดยเราสามารถเลือก hook ที่จะทำการทดสอบได้ประมาณนี้$ pre-commit try-repo /path/to/hook/repo <your-hook-id> --verbose --all-files =============================================================================== Using config: =============================================================================== repos: - repo: . rev: <git-commit-SHA> hooks: - id: <your-hook-id> =============================================================================== [INFO] Initializing environment for .. <your-hook-id>...........................................................Passed - hook id: <your-hook-id> - duration: 1s
- หลังจากเราทดสอบ hooks เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการ publish hooks เพื่อ share ให้กับ project อื่น ๆ ต่อ โดยที่เราก็ push code ขึ้นไปใน remote repository พร้อมกับ Git tag เพื่อระบุ revision ตามต้องการ
-
ทีนี้ project ที่ต้องการจะเอาไปใช้ก็แค่สร้าง
pre-commit
configuration file ขึ้นมาชื่อ.pre-commit-config.yaml
หน้าตาประมาณนี้repos: - repo: your.hooks.repo.url # custom hooks rev: your-hooks-repo-git-tag hooks: - id: hook_1 args: [--arg1=value] - id: hook_2 - repo: https://github.com/pre-commit/pre-commit-hooks # community hooks ดูเพิ่มได้ใน https://pre-commit.com/hooks.html rev: v2.3.0 hooks: - id: check-yaml - id: end-of-file-fixer - id: trailing-whitespace
-
ติดตั้ง Git hook scripts ด้วยคำสั่ง
$ pre-commit install pre-commit installed at .git/hooks/pre-commit
-
ทีนี้เวลาเราใช้คำสั่ง Git commit ถ้าติดตั้งทุกอย่างถูกต้องมันก็จะ run
pre-commit
ให้อัตโนมัติ$ git commit --allow-empty -m 'Hello world!' [INFO] Initializing environment for your.hooks.repo.url. [INFO] Initializing environment for https://github.com/pre-commit/pre-commit-hooks. [INFO] Installing environment for your.hooks.repo.url. [INFO] Once installed this environment will be reused. [INFO] This may take a few minutes... [INFO] Installing environment for https://github.com/pre-commit/pre-commit-hooks. [INFO] Once installed this environment will be reused. [INFO] This may take a few minutes... Hook Number 1............................................................Passed Hook Number 2............................................................Passed Check Yaml...............................................................Passed Fix End of Files.........................................................Passed Trim Trailing Whitespace.................................................Failed - hook id: trailing-whitespace - exit code: 1 Files were modified by this hook. Additional output: Fixing sample.py
-
ถ้าไม่มี file ใด ๆ ถูกแก้ไขตาม hooks ที่กำหนดไว้มันก็จะข้ามไปเลย แต่เราสามารถบังคับให้ run ทุก file ได้ผ่านคำสั่ง
$ pre-commit run --all-files
การใช้งานอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
-
เราสามารถตาม update hooks ให้เป็น version ได้โดยจะทำการ update configuration file ให้ชี้ revision (
rev
) ไปที่ Git tag ล่าสุดใน default branch ของ hook repository$ pre-commit autoupdate
-
ในกรณีที่ update hooks แล้วแต่คำสั่งยังใช้ revision เก่าอยู่ หนึ่งในสาเหตุอาจจะเป็นที่ cache ที่
pre-commit
เก็บไว้ยังชี้ไม่ได้ชี้ไปที่ revision ใหม่ เราสามารถใช้คำสั่งในการ clear cache ได้$ pre-commit clean # clear pre-commit file ทิ้ง $ pre-commit gc # clear pre-commit repos ที่ไป clone มาเก็บไว้
-
เราสามารถเลือกที่จะ run hook อันใดอันนึงได้ผ่านคำสั่ง
$ pre-commit run [hook-id]
-
เราสามารถเลี่ยงการ run hook บางตัวได้ด้วยการระบุ environment variable ชื่อ
SKIP
ที่มีค่าเป็น hook ID ในรูปแบบ comma-separated value ตามด้วยคำสั่ง$ SKIP=hook_1,hook_2 git commit -m "foo"
-
ในกรณีที่ hook มันเจาะจงและผูกติดไปที่ repository อันใดอันนึง เช่น ต้องเรียก script ใน repository นั้น ทำให้เราไม่สามารถใส่ไว้ใน hook repository เพื่อ share ได้ เราสามารถสร้าง hook เพื่อใช้ใน local repository นั้นได้โดยกำหนด configuration file หน้าตาประมาณนี้
repos: - repo: local hooks: - id: hook_1 entry: /path/to/local/script.sh
โดยรวมแล้ว pre-commit เป็นเครื่องมือที่ feature ครอบคลุมหลากหลาย use case มี community ที่ใหญ่พอสมควร (10k stars บน GitHub) ลองไปใช้กันตามเหมาะสมครับ