ช่วงนี้ได้กลับมาทำระบบงานที่ต้องเชื่อมต่อกับ database อีกครั้งอย่าง Redis โดย project ก่อนหน้าที่ทำเมื่อ 3 ปีที่แล้วก็ใช้ แต่ด้วยความที่เพิ่งก้าวเข้าสู่สังเวียนจึงรู้แค่ว่าในเมื่อ Redis เป็น key-value database ดังนั้นมันจึงสามารถเก็บ data structure ได้แค่แบบเดียวคือ String ทั้งที่จริง ๆ แล้วตอนนี้ Redis เค้ารองรับ data structure หลากหลาบรูปแบบ นอกจากนั้นยังมีความสามารถอื่น ๆ จาก pub-sub ด้วย

Redis data structure

https://keestalkstech.com/2019/04/building-a-high-performing-last-viewed-list-using-redis/

ดังนั้นเมื่อเราดูจาก data structure ต่าง ๆ แล้วเราก็จะเห็นความแตกต่างในการนำไปใช้งานด้วยดังนี้

  • String จะเหมาะกับการเก็บข้อมูลที่ไม่ซับซ้อนและไม่ต้อง update บ่อย ๆ เช่น จำนวน message ที่ยังไม่ได้อ่าน (unread messages) ในระบบ chat เป็นต้น
  • Hash table คือ list ของ key-value เปรียบเสมือน Dictionary ในภาษา Python Python Dictionary vs List เมื่อเราต้องการดึงข้อมูลจาก Hash table ก็ต้องใช้ key เช่นเดียวกันแต่แทนที่จะได้ value เดียว ก็จะได้ list ของ key-value ที่เกี่ยวข้องกันออกมาแทน จะเหมาะสำหรับการดึงข้อมูลที่ 1 key สามารถโยงไปหา value ที่มีหลาย ๆ properties เช่น
    • เก็บข้อมูล user เช่น name, email address
    • เก็บข้อมูล product เช่น name, price, description
  • Lists สำหรับเก็บข้อมูลที่ต้องเข้าด้วยรูปแบบ FIFO (first in, first out) หรือ LIFO (last in, first out) order เช่น message queue
  • Sets สำหรับเก็บข้อมูลประเภทเดียวกันหลาย ๆ อันที่ไม่ซ้ำกัน เช่น IP address ของ user ที่เข้ามาดู website
  • Sorted sets เหมาะกับข้อมูลที่ต้องเก็บแบบเรียงลำดับกัน (sorted order) เนื่องจาก Redis รองรับการเรียง key-value ในตัว เช่น ข้อมูล leaderboard ในเกม เป็นต้น

นอกจากนั้นแล้วเราต้องดูเรื่องของ cross-functional requirement ด้วย เช่น

  • Performance เช่น การเก็บข้อมูลแบบ String ก็จะเร็วกว่า Sorted sets หรือการใช้งาน indexing ควบคู่ไปกับ Hash table
  • Scalability เช่น หากหน้าตาของ data ของเรายังไม่แน่นอนว่าจะมีกี่ properties การใช้งาน Hash ย่อม scale ง่ายกว่า Lists เนื่องจาก Hash รองรับการเก็บหลาย properties

ไม่ได้แตะ Redis มานานพอได้กลับมาลงมือทำจริงเลยได้พบว่ามันมีความสามารถเยอะมาก รองรับ use case ที่หลากหลาย ดังนั้นเราต้องใช้งานตาม requirement ที่เหมาะสมด้วย